31 พฤษภาคม 2564

เช็กสิทธิประกันสังคม มาตรา 33, 39, 40 ช่วยเหลืออะไรบ้างในช่วง COVID-19 ปี 2564

         สรุปความช่วยเหลือผู้ประกันตน ประกันสังคม มาตรา 33, 39 และ 40 จะได้สิทธิ์อย่างไรบ้าง เมื่อโควิด 19 กลับมาระบาดเป็นระลอกที่ 3 เรื่องสำคัญที่ผู้ประกันตนต้องทราบ


โควิด 19 ยังคงวนเวียนกลับมาระบาดซ้ำอีกครั้งในช่วงเดือนเมษายน 2564 ซึ่งนับเป็นการระบาดระลอกที่ 3 แต่ครั้งนี้แพร่กระจายเป็นวงกว้างกว่าทุกครั้ง ส่งผลให้พนักงานและลูกจ้างจำนวนไม่น้อยต้องตกงานและได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก


อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ไม่ว่าจะเป็นมาตรา 33, มาตรา 39 หรือมาตรา 40 ก็ยังได้รับความช่วยเหลือตามสิทธิประกันสังคมอยู่บ้าง ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละมาตรา วันนี้เราจึงสรุปมาให้ทราบกันชัด ๆ ว่า สิทธิประกันสังคมที่ผู้ประกันตนมาตราต่าง ๆ จะได้รับความช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ระลอกที่ 3 นั้นมีอะไรบ้าง

 

ผู้ประกันตน มาตรา 33, 39, 40 คือใครบ้าง

- ผู้ประกันตน มาตรา 33 คือ พนักงาน มนุษย์เงินเดือน หรือลูกจ้างเอกชนที่ยังทำงานกับนายจ้างอยู่ในสถานประกอบการ ซึ่งทั้งนายจ้างและลูกจ้างจะส่งเงินสมทบเดือนละ 5% ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 750 บาท

 

- ผู้ประกันตน มาตรา 39 คือ พนักงาน-ลูกจ้างเอกชนที่เคยเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 โดยจ่ายเงินสมทบมาไม่น้อยกว่า 12 เดือน แต่ปัจจุบันได้ลาออกจากงาน ไม่ได้ทำงานประจำแล้ว และสมัครใจเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 เพื่อรักษาสิทธิประกันสังคม ภายใน 6 เดือน หลังลาออก

 

- ผู้ประกันตน มาตรา 40 คือ บุคคลทั่วไปที่ทำอาชีพอิสระ หรือเป็นแรงงานนอกระบบ เช่น พ่อค้า แม่ค้า เกษตรกร ช่างก่อสร้าง ฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ และอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 หรือ 39 แต่สมัครใจสมัครเป็นผู้ประกันตนประกันสังคมเพื่อรับสิทธิต่าง ๆ  


สิทธิประโยชน์กรณีตรวจโควิด 19

1. ตรวจโควิดฟรีที่หน่วยตรวจโควิด 19 เชิงรุกของสำนักงานประกันสังคม

โดยผู้ประกันตนทั้งมาตรา 33, 39 และ 40 สามารถตรวจโควิดฟรี ณ วัน-เวลา และสถานที่ที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด เช่น การตรวจคัดกรองเชิงรุกตามสถานประกอบการ หรือหน่วยบริการตรวจหาเชื้อโควิด 19 เชิงรุก ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง


ทั้งนี้ ต้องติดตามประกาศจากทางสำนักงานประกันสังคมว่าจะเปิดหน่วยคัดกรองเชิงรุกที่ไหนบ้าง โดยลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ sso.icntracking  


2. ตรวจโควิดฟรีที่สถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน กรณีเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง

ผู้ประกันตนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อสามารถตรวจคัดกรองได้ที่โรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชนทุกแห่ง ซึ่งผู้เข้าข่ายตรวจฟรีมีหลักเกณฑ์ ดังนี้


2.1. มีอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง (ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเร็วเหนื่อย หายใจลำบาก จมูกไม่ได้กลิ่น หรือลิ้นไม่รับรส)


2.2. มีประวัติเสี่ยงข้อใดข้อหนึ่ง คือ

- เดินทางมาจากเขตติดโรค หรือพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง

- ประกอบอาชีพที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางมาจากเขตติดโรค หรือพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง

- สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยสงสัย หรือผู้ป่วยยืนยัน

- เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน

(ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์)


หากไม่เข้าเกณฑ์ 2 ข้อนี้ แต่อยากตรวจหาเชื้อ สามารถไปตรวจได้ที่สถานพยาบาลต่าง ๆ โดยจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง


สิทธิประโยชน์กรณีรักษาโควิด 19

ตามหลักเกณฑ์แล้ว รัฐบาลได้ประกาศให้โรคโควิด 19 เป็นโรคเจ็บป่วยฉุกเฉินที่สามารถใช้สิทธิตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิ์ทุกที่ หรือ UCEP ได้


ดังนั้น ผู้ติดเชื้อโควิด 19 สามารถเข้ารักษาพยาบาลได้ทั้งสถานพยาบาลของรัฐและเอกชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งหากเป็นสถานพยาบาลเอกชน ทางสถานพยาบาลจะส่งเรื่องเบิกเงินไปยังสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานประกันสังคม เพื่อจ่ายเงินให้กับสถานพยาบาลของเอกชนโดยตรงต่อไป


ทั้งนี้ หากผู้ป่วยถูกเรียกเก็บเงินและได้จ่ายเงินไปแล้ว สามารถร้องเรียนที่สายด่วน 1330 ของ สปสช. หรือ 1426 ของ สบส. เพื่อประสานขอเงินคืนได้


สิทธิประโยชน์กรณีเงินทดแทนการขาดรายได้

ผู้ประกันตนที่ติดโควิดต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือ Hospitel และต้องหยุดงาน จะได้รับเงินทดแทน ดังนี้


ประกันสังคม มาตรา 33

1. ค่าจ้างจากนายจ้าง : สามารถใช้สิทธิ์ลาป่วยโดยได้รับค่าจ้างจากนายจ้างไม่เกิน 30 วัน/ปี


2. เงินทดแทนการขาดรายได้จากประกันสังคม : กรณีใช้สิทธิ์ลาป่วยกับนายจ้าง เกิน 30 วัน/ปี แล้ว แต่ยังต้องหยุดพักรักษาตัวเกินวันลา ผู้ประกันตนสามารถยื่นขอรับเงินทดแทนการขาดรายได้จากประกันสังคมได้


ใครมีสิทธิ์ : 

ต้องส่งเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนวันที่เข้ารับการรักษาพยาบาล โดยแพทย์มีคำสั่งให้หยุดพักรักษาตัว


จะได้รับเงินเท่าไร : 

กรณีเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ประกันสังคมจะจ่ายเงินทดแทนฯ ให้ในอัตรา 50% ของค่าจ้าง หรือสูงสุดวันละ 250 บาท (คิดจากฐานอัตราเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท) โดยได้รับครั้งละไม่เกิน 90 วัน ปีละไม่เกิน 180 วัน ยกเว้นเป็นโรคเรื้อรัง จะได้รับเงินทดแทนฯ ไม่เกิน 365 วัน แต่ต้องมีหนังสือรับรองจากนายจ้างว่าได้รับค่าจ้างในวันลาป่วยครบ 30 วันทำงานใน 1 ปีปฏิทินแล้ว ส่วนที่ลาป่วยเกิน 30 วัน จึงสามารถยื่นขอรับเงินทดแทนฯ จากประกันสังคมได้


ประกันสังคม มาตรา 39

ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้อันเนื่องมาจากการเจ็บป่วยและต้องหยุดงาน ตามคำสั่งของแพทย์ในอัตรา 50% ของค่าจ้าง หรือวันละ 80 บาท (คิดจากฐานเงินเดือน 4,800 บาท) โดยได้รับครั้งละไม่เกิน 90 วัน ปีละไม่เกิน 180 วัน ยกเว้นเป็นโรคเรื้อรัง จะได้รับไม่เกิน 365 วัน


ใครมีสิทธิ์ :

ต้องส่งเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนวันที่เข้ารับการรักษาพยาบาล โดยแพทย์มีคำสั่งให้หยุดพักรักษาตัว


ประกันสังคม มาตรา 40

ผู้ประกันตน มาตรา 40 ไม่สามารถใช้สิทธิได้ เนื่องจากประกันสังคม มาตรา 40 ไม่ครอบคลุมการรักษาพยาบาล หากต้องการใช้สิทธิตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา หรือรักษาพยาบาลเมื่อป่วยโควิด 19 ต้องใช้สิทธิบัตรทอง จาก สปสช.


อย่างไรก็ตาม กรณีแพทย์ให้หยุดพักรักษาตัว 3 วันขึ้นไป หรือกรณีเป็นผู้ป่วยในต้องนอนโรงพยาบาล ประกันสังคมจะจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วยให้ ดังนี้

 

การส่งเงินสมทบประกันสังคม

ปกติผู้ประกันตน มาตรา 33 จะส่งเงินสมทบในอัตรา 5% ของเงินเดือน หรือสูงสุดไม่เกิน 750 บาท/เดือน (ฐานเงินเดือน 15,000 บาท) แต่ในปี 2564 มีการปรับลดอัตราการส่งเงินสมทบหลายครั้ง ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ต้องส่งเงินสมทบ ดังนี้


- เดือนมกราคม 2564 : ลดอัตราการส่งเงินสมทบ เหลือ 3% เท่ากับว่าจากเดิมเคยส่งเงินสมทบสูงสุดเดือนละ 750 บาท จะเหลือแค่ 450 บาท 

 

- เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2564 : ลดอัตราการส่งเงินสมทบ เหลือ 0.5% เท่ากับว่าจากเดิมเคยส่งเงินสมทบสูงสุดเดือนละ 750 บาท จะเหลือแค่ 75 บาท

 

- เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2564 : ลดอัตราการส่งเงินสมทบ เหลือ 2.5% เท่ากับว่าจากเดิมเคยส่งเงินสมทบสูงสุดเดือนละ 750 บาท จะเหลือแค่ 375 บาท


ประกันสังคม มาตรา 39

- เดือนมกราคม 2564 : ลดอัตราการส่งเงินสมทบ เหลือ 278 บาท 

- เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2564 : ลดอัตราการส่งเงินสมทบ เหลือ 38 บาท 

- เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2564 : ลดอัตราการส่งเงินสมทบ เหลือ 216 บาท 


ประกันสังคม มาตรา 40

-  ผู้ประกันตน มาตรา 40 ยังต้องส่งเงินสมทบเท่าเดิม ไม่ได้มีการปรับลดอัตราการส่งเงินสมทบเหมือนกับผู้ประกันตน มาตรา 33 และมาตรา 39

  

สิทธิประโยชน์กรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัย

ประกันสังคม มาตรา 33

สำหรับการระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ จะมีเงื่อนไขการจ่ายเงินชดเชยแตกต่างจากการระบาดรอบแรกเมื่อต้นปี 2563 โดยรอบนี้จะได้รับเงินกรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัย ตามเงื่อนไขดังนี้


-  ลูกจ้างไม่ได้ทำงาน หรือนายจ้างไม่ให้ทำงาน เนื่องจากต้องกักตัว หรือเฝ้าระวังการระบาดของโรค


-  ลูกจ้างไม่ได้ทำงาน เนื่องจากนายจ้างต้องหยุดประกอบกิจการ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เนื่องจากราชการมีคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดต่ออันตราย ทำให้ไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ 


ใครมีสิทธิ์ :

-  ต้องเป็นผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนการว่างงานหรือถูกรัฐสั่งให้กักตัว หากส่งเงินสมทบไม่ครบ 6 เดือน จะไม่สามารถรับเงินชดเชยได้


-  ลูกจ้างจะต้องไม่ได้รับค่าจ้างใด ๆ จากนายจ้างตลอดระยะเวลาที่กักตัว หรือปิดกิจการชั่วคราว หากนายจ้างจ่ายค่าจ้างให้บางส่วน หรือทั้งหมดตามปกติ จะไม่สามารถขอรับเงินชดเชยจากประกันสังคมได้

 

รับเงินชดเชยเท่าไร :

ได้รับเงิน 50% ของค่าจ้างรายวัน โดยให้ได้รับตลอดระยะเวลาที่มีการกักตัว หรือเฝ้าระวังการระบาดของโรค หรือมีคำสั่งปิดสถานที่ แล้วแต่กรณี แต่รวมกันไม่เกิน 90 วัน ดังนั้น จะได้รับเงินสูงสุดไม่เกินเดือนละ 7,500 บาท (คิดจากฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท)


วิธียื่นรับสิทธิ์

1. ผู้ประกันตนกรอกแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01/7) (ดาวน์โหลด) พร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ และแนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของตนเอง


- กรณีกักตัวใช้เอกสารประกอบ คือ ใบรับรองแพทย์ให้กักตัว หรือคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่สั่งให้กักตัว


2. ผู้ประกันตนนำ สปส.2-01/7 และเอกสารอื่น ๆ ส่งให้นายจ้างรวบรวม


3. นายจ้างบันทึกข้อมูลลูกจ้างตามแบบ สปส.2-01/7 และหนังสือรับรองการหยุดงานกรณีราชการสั่งปิด/กรณีกักตัว ผ่านระบบ e-service ที่ www.sso.go.th (นายจ้างที่ใช้ระบบครั้งแรกต้องลงทะเบียนเพื่อใช้ระบบก่อน)


4. เมื่อนายจ้างบันทึกข้อมูลลูกจ้างเสร็จสิ้นให้นำแบบฯ และหนังสือรับรองในระบบ e-Service ส่งมายังสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ทางไปรษณีย์ (ลงทะเบียน) ภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่บันทึกข้อมูลในระบบ e-Service บนเว็บไซต์ www.sso.go.th


5. เมื่อสำนักงานประกันสังคมได้รับข้อมูลของนายจ้างถูกต้องครบถ้วน จะทำการอนุมัติจ่าย รอบแรกเงินเข้าบัญชีภายใน 5 วันทำการ ส่วนที่เหลือโอนเข้าบัญชีทุกสิ้นเดือนจนครบ


แต่กรณีต่อไปนี้ ไม่สามารถขอรับเงินว่างงานจากประกันสังคมได้

- ลูกจ้างถูกปรับลดเงินเดือน

- ลูกจ้างยินยอมลางานโดยไม่รับค่าจ้าง (Leave without Pay)

- สถานประกอบการหยุดชั่วคราว ลูกจ้างไม่ต้องมาทำงาน แต่นายจ้างยังคงจ่ายเงินให้ลูกจ้างอยู่ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเท่าไรก็ตาม

- นายจ้างหยุดชั่วคราวเนื่องจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และไม่ให้ลูกจ้างทำงาน (กรณีนี้ นายจ้างต้องจ่ายเงินให้ลูกจ้าง 75% ของค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน)


ประกันสังคม มาตรา 39 และ 40

เนื่องจากประกันสังคม มาตรา 39 และ 40 ไม่คุ้มครองกรณีว่างงาน ดังนั้น ผู้ประกันตนที่หยุดทำงานชั่วคราว หรือไม่ได้ทำงานประจำ จะไม่สามารถรับเงินเยียวยากรณีว่างงานจากประกันสังคมได้ 


กรณีลาออกเอง / สิ้นสุดสัญญาจ้าง

ประกันสังคม มาตรา 33

รับเงินชดเชยเท่าไร : หากลาออกเองในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 (ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 - 28 กุมภาพันธ์ 2565) จะได้รับเงิน 45% ของค่าจ้างรายวัน แต่ไม่เกิน 90 วัน ดังนั้น จะได้รับเงินสูงสุดไม่เกินเดือนละ 6,750 บาท (ฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท)


ใครมีสิทธิ์

- ต้องเป็นผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนการว่างงาน และอายุยังไม่เกิน 55 ปี


วิธียื่นรับสิทธิ์

- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมการจัดหางาน โดยใช้เลขบัตรประชาชนในการเข้าสู่ระบบ กรอกข้อมูลจากบัตรประชาชน พร้อมกรอกเลขหลังบัตรประชาชน (laser Code) จะได้รหัสผ่านเพื่อใช้งานระบบ


- เมื่อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบเสร็จสิ้นแล้ว ให้ยื่นคำขอ "รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7) e-form" บนเว็บไซต์


- รายงานตัวเดือนละครั้ง ผ่านเว็บไซต์กรมการจัดหางาน


กรณีถูกเลิกจ้าง

ประกันสังคม มาตรา 33

รับเงินชดเชยเท่าไร : หากถูกเลิกจ้างในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 (ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 - 28 กุมภาพันธ์ 2565) จะได้รับเงิน 70% ของค่าจ้างรายวัน แต่ไม่เกิน 200 วัน เท่ากับว่าจะได้รับเงินสูงสุดไม่เกินเดือนละ 10,500 บาท (ฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท)


ใครมีสิทธิ์

- ต้องเป็นผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนการว่างงาน


- อายุไม่เกิน 55 ปี 


- ไม่กระทำผิดจนถูกให้พ้นสภาพจากการเป็นพนักงาน เช่น ทุจริตต่อหน้าที่, ทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง, จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย, ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันทำงานติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันควร เป็นต้น

 

วิธียื่นรับสิทธิ์

- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมการจัดหางาน โดยใช้เลขบัตรประชาชนในการเข้าสู่ระบบ กรอกข้อมูลจากบัตรประชาชน พร้อมกรอกเลขหลังบัตรประชาชน (laser Code) จะได้รหัสผ่านเพื่อใช้งานระบบ


- เมื่อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบเสร็จสิ้นแล้ว ให้ยื่นคำขอ "รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7) e-form" บนเว็บไซต์


- รายงานตัวเดือนละครั้ง ผ่านเว็บไซต์กรมการจัดหางาน


ประกันสังคม มาตรา 39 และ 40

ไม่คุ้มครองกรณีดังกล่าว  

เงินเยียวยาช่วงโควิด

เป็นความช่วยเหลือจากรัฐบาลที่มอบให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่มีสัญชาติไทย ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่มีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันเกิน 500,000 บาท จะได้รับเงินเยียวยาตามโครงการ ม.33 เรารักกัน จำนวน 4,000 บาท โดยแบ่งจ่ายสัปดาห์ละ 1,000 บาท รวม 4 ครั้ง ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายน 2564


อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโควิด 19 ได้ระบาดซ้ำเป็นรอบที่ 3 ครม. จึงไฟเขียวจ่ายเงินเยียวยาเข้าโครงการ ม.33 เรารักกัน เฟส 2 เพิ่มให้อีก 2,000 บาท โดยแบ่งจ่ายครั้งแรกในวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 และครั้งที่ 2 ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 รวมรับเงิน 6,000 บาท


ประกันสังคม มาตรา 39 และมาตรา 40

ไม่ได้รับสิทธิ์ในโครงการ ม.33 เรารักกัน แต่สามารถลงทะเบียนในโครงการเราชนะได้ ซึ่งแจกเงิน 7,000 บาท ในเฟสแรก และยังให้เพิ่มเติมเฟส 2 อีก 2,000 บาท ในเดือนพฤษภาคม 2564 รวมรับเงิน 9,000 บาท


วิธีตรวจสอบสิทธิประกันสังคมของตนเอง

ผู้ประกันตนทุกคนสามารถตรวจสอบสิทธิประกันสังคมของตัวเองได้ง่าย ๆ ดังข้อมูลต่อไปนี้


หากตรวจสอบแล้วพบว่าเราเข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือด้านใด ก็สามารถยื่นเรื่องขอรับสิทธิ์นั้นได้ แต่ถ้ายังมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคม โทร. 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง


* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 28 พฤษภาคม 2564


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : 

สำนักงานประกันสังคม, สำนักงานประกันสังคม, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, เฟซบุ๊ก สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน, เฟซบุ๊ก สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน  

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สถานะยืนยันตัวตน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขึ้นข้อความแบบไหน ได้สิทธิชัวร์

      ตรวจสอบสถานะ ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านเว็บไซต์ด้วยตนเอง หากได้รับข้อความแบบไหนถึงจะรูผลว่าผ่านและรอรับเงินเข้าบัตรประจำตัวป...