 |
ครม. ไฟเขียว แบนกล่องโฟม หลอดพลาสติก แก้วพลาสติก และถุงพลาสติกหูหิ้วที่หนาน้อยกว่า 36 ไมครอน ออกจากประเทศไทย พร้อมปูโรดแมปการรีไซเคิล คาดว่า ช่วยรัฐประหยัดได้ 3.9 พันล้านบาทต่อปี ขีดเส้นตายภายในปี 2565
วันที่ 5 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการเห็นชอบข้อเสนอของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เกี่ยวกับร่างแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2563 - 2565) โดยแผนนี้จะอยู่ในภายใต้โรดแมป การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2573 รวมเวลา 12 ปี มีเป้าหมาย ดังนี้
1. ลด เลิกใช้พลาสติก และใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบ 100% ภายในปี 2565 ได้แก่
- ถุงพลาสติกหูหิ้ว ความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน
- กล่องโฟมบรรจุอาหาร ไม่รวมถึงโฟมที่ใช้กันกระแทกในภาคอุตสาหกรรม
- แก้วพลาสติก ความหนาน้อยกว่า 100 ไมครอน
- หลอดพลาสติก ยกเว้นการใช้กรณีจำเป็น ได้แก่ การใช้ในเด็ก คนชรา ผู้ป่วย เป็นต้น
 |
2. การนำพลาสติกเป้าหมาย กลับไปใช้ประโยชน์ในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของพลาสติกเป้าหมาย ภายในปี 2565 ได้แก่
- ถุงพลาสติกหูหิ้ว (HDPE LLDPE LDPE และ PP)
- บรรจุภัณฑ์ฟิล์มพลาสติกชั้นเดียว (HDPE และ LL/LDPE)
- ขวดพลาสติก (ทุกชนิด)
- ฝาขวด
- แก้วพลาสติก
- ถาด กล่องอาหารพลาสติก
- ช้อน ส้อม มีดพลาสติก
 |
ทั้งนี้ สำหรับผลการดำเนินการ คาดว่า สามารถลดประมาณขยะพลาสติกที่ต้องนำไปกำจัดได้ประมาณ 0.78 ล้านตันต่อปี และประหยัดงบประมาณในการจัดการขยะมูลฝอยได้ประมาณ 3,900 ล้านบาทต่อปี และสามารถประหยัดพื้นที่การฝังกรมได้ 2,500 ไร่ ในแง่อากาศ ก็สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่าคาร์บอนไดออกไซด์ 1.2 ล้านตัน
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :hilight.kapook,รัฐบาลไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น