28 กุมภาพันธ์ 2566

ทำใบขับขี่สากล 2566 Walk in ได้แล้วไม่ต้องจองคิว ใช้เอกสารอะไรบ้าง มาดูกัน


         ขนส่ง ให้บริการทำใบขับขี่สากล 2566 โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า สามารถ Walk in ได้ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่ง เตรียมเอกสารหลักฐานให้พร้อม หากไม่สะดวกมอบอำนาจได้ 

 

ใบขับขี่หรือใบอนุญาตขับรถ เอกสารสำคัญที่ผู้ขับขี่รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ จำเป็นต้องมีก่อนจะขับรถออกมาบนท้องถนน เช่นเดียวกับในต่างประเทศ หากเราเดินทางไปท่องเที่ยว ทำงาน หรือทำธุระต่าง ๆ แล้วระบบขนส่งสาธารณะในบางพื้นที่อาจเข้าไม่ถึง การขับรถยนต์เองมีความสะดวกมากกว่า แต่ก็จำเป็นจะต้องมีใบขับขี่สากลเสียก่อน


ใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ คือ เอกสารที่ใช้ยืนยันตัวตนว่าสามารถขับรถยนต์ได้ในประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ประเทศบ้านเกิดของตน ใครที่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศและสนใจทำใบขับขี่สากล ปัจจุบันสามารถเดินทางไปรับบริการได้ที่กรมการขนส่งทางบกทุกแห่งทั่วประเทศ โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า (Walk in) และไม่ต้องมีขั้นตอนของการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ หรือหากมีความประสงค์จะจองคิวเข้ารับบริการล่วงหน้าก็สามารถจองผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue โดยเลือกสำนักงานขนส่ง วัน เวลาที่สะดวก และแจ้งรายชื่อประเทศที่ต้องการนำใบขับขี่สากลไปใช้ต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจสอบความเกี่ยวข้องในการร่วมเป็นภาคีตามอนุสัญญา หรือสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองที่ศูนย์รวบรวมข้อมูลข่าวสาร กรมการขนส่งทางบก LTP Center


ใบขับขี่สากล ใช้เอกสารหลักฐานอะไรบ้าง (กรณีคนไทย)

1. หนังสือเดินทาง (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ 

2. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ 

3. ใบขับขี่ไทย (5 ปี, ตลอดชีพ, ขนส่ง) (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ

4. รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ไม่เคลือบมัน (รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) 


ใบขับขี่สากล ใช้เอกสารหลักฐานอะไรบ้าง (กรณีคนต่างชาติ)

1. หนังสือเดินทางและวีซ่า (ต้องไม่ใช่เพื่อการท่องเที่ยว เล่นกีฬา หรือเดินทางผ่านเมือง) (ฉบับจริงพร้อมสำเนา)

2. ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ ที่รับรองโดยสถานทูต หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ฉบับจริง) หรือใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) หรือใบอนุญาตทำงานอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Work Permit) ที่แสดงรายละเอียด ที่อยู่ และยังไม่สิ้นอายุ หรือหลักฐานที่แสดงว่าเป็นผู้ได้รับการตรวจลงตราพิเศษ (Smart Visa) ที่รับรองโดยสถานทูต หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือหน่วยงานภาครัฐ หรือองค์กรระหว่างประเทศออกให้ (ฉบับจริงพร้อมสำเนา)

3. ใบขับขี่ไทย (5 ปี หรือตลอดชีพ) (ฉบับจริงพร้อมสำเนา) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ

4. รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ไม่เคลือบมัน (รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)


นอกจากนี้ การทำใบขับขี่สากลสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ โดยต้องเตรียมเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ดังนี้

1. ใบมอบอำนาจ 

2. บัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (ฉบับจริงพร้อมสำเนา) 

3. หลักฐานของผู้มอบอำนาจที่จะใช้ในการขอรับใบขับขี่สากล (สำเนาพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง) ใบขับขี่สากลตามอนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับ


สรุปรวมในส่วนของค่าใช้จ่าย การดำเนินการต่าง ๆ ทุกวิธีการจะมีค่าธรรมเนียมพร้อมค่าคำขอรวมแล้ว 505 บาท เท่ากันทั้งหมด 


การทำใบขับขี่สากลนั้นเป็นการทำข้อตกลงตามอนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ซึ่งประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญา 2 ฉบับด้วยกัน ได้แก่ อนุสัญญาเจนีวา 1949 และ อนุสัญญาเวียนนา 1968 โดยมีรายละเอียดดังนี้


- อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ นครเจนีวา ค.ศ. 1949 หรือ อนุสัญญาเจนีวา 1949 มีอายุ 1 ปี นำไปใช้ได้ใน 102 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เกาหลีใต้  นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เป็นต้น


- อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ กรุงเวียนนา ค.ศ. 1968 หรือ อนุสัญญาเวียนนา 1968 มีอายุ 3 ปี นับแต่วันออกใบขับขี่สากล หรือเท่ากับอายุของใบขับขี่ภายในประเทศที่ผู้ถือมีอยู่ นำไปใช้ได้ 86 ประเทศ เช่น บาห์เรน บราซิล เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น 


สำหรับประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับ เช่น สหราชอาณาจักร อิตาลี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวีเดน รวมถึงประเทศไทย สามารถใช้ใบขับขี่สากลที่ออกตามอนุสัญญาเวียนนา 1968 เพียงฉบับเดียวได้


อย่างไรก็ตาม การนำใบขับขี่สากลไปใช้ในต่างประเทศ กรมการขนส่งทางบกมีคำแนะนำว่าให้นำใบขับขี่ของประเทศไทยแสดงควบคู่กับใบขับขี่สากลด้วย


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : car.kapook,กรมการขนส่งทางบก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สถานะยืนยันตัวตน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขึ้นข้อความแบบไหน ได้สิทธิชัวร์

      ตรวจสอบสถานะ ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านเว็บไซต์ด้วยตนเอง หากได้รับข้อความแบบไหนถึงจะรูผลว่าผ่านและรอรับเงินเข้าบัตรประจำตัวป...