28 พฤศจิกายน 2565

ฝันสลาย "คนละครึ่ง" ขุนคลังมองไม่จำเป็น คาดเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง ปี 66 โต 4%

 

     นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษฟื้นเศรษฐกิจไทย เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 40 ที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจในปีหน้าจะขยายตัว 3.5-4% และการส่งออกจะเติบโต 3-5% จากปีนี้ที่ส่งออกเติบโต 8% ตามที่ภาคเอกชนคาด


"เพราะเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 65 หลังผ่อนคลายการกลับมาเปิดประเทศ ทำให้การบริโภคและการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดีขึ้น และได้อานิสงค์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า โดยมองว่า โครงการคนละครึ่งไม่จำเป็นต้องมีอีก เพราะเศรษฐกิจและการบริโภคสามารถฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง" นายอาคม กล่าว


อย่างไรก็ตาม ปีหน้าภาครัฐจะเร่งเดินหน้าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ลดต้นทุนการขนส่งให้ภาคเอกชน ขณะนี้วางแผนเม็ดเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไว้ที่ 5 ล้านล้านบาท ภายในระยะเวลา 8-10 ปี โดยจะเป็นการลงทุนทั้งในระบบสาธารณูปโภค พลังงาน ซึ่งเม็ดเงินในการระดมทุนจะมาจากการออกพันธบัตร เงินกู้และงบประมาณภาครัฐ


สำหรับมาตรการของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนนั้น อยู่ระหว่างการระดับความคิดเห็น และจากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวมาตรการเดิมที่เคยมีอาจจะลดลงได้


ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุ เข้าใจหากรัฐบาลจะไม่มีโครงการคนละครึ่งอีกในช่วงปลายปี เพราะงบประมาณมีจำกัด ซึ่งงบประมาณต่างๆ มาจากภาษีประชาชน และในช่วงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้านั้น เรื่องปากท้องควรเป็นเรื่องแรกที่รัฐบาลใหม่จะต้องให้ความสำคัญ หากไม่เห็นความสำคัญของปากท้องอาจจะอยู่ได้ยาก โดยเศรษฐกิจของประเทศเวลานี้เชื่อว่าจะดีขึ้นแล้ว และจะไม่เกิดสูญญากาศด้านนโยบายเศรษฐกิจ


ช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐกับภาคเอกชนทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด มั่นใจจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากวิกฤติต่างๆ ได้รวดเร็วมากขึ้น รวมถึงเครือข่ายของหอการค้าทั่วประเทศ มีส่วนในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี เช่น กระทรวงพาณิชย์ในรูปแบบของ กรอ. พาณิชย์ ทำให้การเจรจาการค้าเกิดผลในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะการส่งออกผลไม้ไปประเทศจีน และการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้การส่งออกในภาพรวมปีนี้ มั่นใจจะสามารถขยายตัวได้ 8% สูงกว่าเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งไว้ 4%


นอกจากนี้ หอการค้าไทยจะทำงานร่วมกับ BOI ในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมถึงซาอุดีอาระเบียที่มีการฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว


หอการค้าไทยพร้อมประสานให้มีการร่วมลงทุนระหว่าง 2 ประเทศได้ ซึ่งมีภาคธุรกิจหลายส่วนสนใจที่จะไปร่วมลงทุนในซาอุดีอาระเบียแล้ว รวมถึงการดึงดูดการลงทุนจากซาอุดีอาระเบียเข้ามายังประเทศไทยด้วย


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :  sanook.news,thebangkokinsight

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สถานะยืนยันตัวตน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขึ้นข้อความแบบไหน ได้สิทธิชัวร์

      ตรวจสอบสถานะ ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านเว็บไซต์ด้วยตนเอง หากได้รับข้อความแบบไหนถึงจะรูผลว่าผ่านและรอรับเงินเข้าบัตรประจำตัวป...