เตือน ยาอีตัวใหม่ หมีสีเหลือง แรงกว่ายาบ้า คาดใช้คู่ยานอนหลับ ฤทธิ์แรงถึงตายได้ !

     

     นครพนมแถลงตรวจยึด ยาอีตัวใหม่ หมีสีเหลือง พร้อมยานอนหลับชนิดรุนแรง รวมกว่า 70,000 เม็ด พบฤทธิ์แรงกว่ายาบ้า คาดใช้เสพคู่กัน ออกฤทธิ์ทวีคูณ เตือนอย่าลองอาจถึงตาย

วันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ข่าวช่องวัน รายงานว่า ที่ว่าการอำเภอธาตุพนม จ.นครพนม มีการจัดแถลงการณ์ตรวจยึดยาอีรูปแบบใหม่ ลักษณะเป็นเม็ดรูปตัวการ์ตูนหมีสีเหลือง คล้ายขนมเด็ก พร้อมยานอนหลับชนิดรุนแรง

โดยตรวจยึดได้เมื่อกลางดึกคืนที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา บริเวณริมแม่น้ำโขง พื้นที่บ้านคำผักแพรว ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม หลังตรวจพบกระเป๋าเดินทางสีดำ จำนวน 1 ใบ มาพักไว้ริมฝั่งน้ำโขง คาดว่าลักลอบนำข้ามมาจาก สปป.ลาว เพื่อนำมาพักก่อนลำเลียงขนส่งเข้าพื้นที่ตอนในของไทย

ตรวจสอบเป็นยาอีรูปแบบใหม่ ตัวการ์ตูนหมี บรรจุในถุงพลาสติกใส จำนวน 19 ห่อ นับได้จำนวน 18,807 เม็ด นอกจากนี้ยังตรวจยึดยานอนหลับชนิดรุนแรง อีกจำนวนมาก บรรจุเป็นแพ็กเกจแผงพลาสติกสีเขียว จำนวน 34,949 เม็ด กับแผงสีแดง จำนวน 19,990 เม็ด รวมเป็นจำนวน 73,746 เม็ด

การตรวจยึดครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลาย 10 ปี ในพื้นที่ชายแดน จ.นครพนม เชื่อว่าจะนำไปใช้ในกลุ่มสถานบันเทิง รวมถึงกลุ่มปาร์ตี้ยาเสพติด เป็นหลัก และนิยมใช้ในกลุ่มไฮโซ มีราคาเม็ดละเกือบ 1,000 บาท

ยาอีการ์ตูนหมี ออกฤทธิ์รุนแรงกว่ายาบ้า คาดใช้คู่ยานอนหลับ ออกฤทธิ์ทวีคูณ

พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับพิสูจน์หลักฐานนครพนม เผยผลตรวจสอบสารออกฤทธิ์เบื้องต้น พบยาอีการ์ตูนหมี เป็นสารเสพติดตัวยาลักษณะคล้ายยาบ้า เป็นยาเสพติดประเภท 1 เช่นกัน แต่จะออกฤทธิ์รุนแรงมากกว่า เน้นความมึนเมาเพื่อให้เคลิ้มเชิงสันทนาการ ส่วนการเสพเข้าร่างกายทำได้หลายรูปแบบ ทั้งกิน ผสมน้ำ แล้วแต่ความชอบกลุ่มผู้เสพ

อีกทั้งยังสันนิษฐานว่า ยาออกฤทธิ์ประเภท 2 หรือ ยานอนหลับ ที่ตรวจยึดคู่กัน เชื่อว่าจะนำมาใช้เสพคู่กันเพื่อให้ออกฤทธิ์รุนแรงมากขึ้น เน้นสำหรับกลุ่มวัยรุ่น หรือกลุ่มนักเสพยาเสพติด ที่เน้นเสพเพื่อความบันเทิง แต่จะมีความเสี่ยงออกฤทธิ์หลอนประสาทมากกว่ายาบ้า

โดยยานอนหลับชนิดรุนแรงมีชื่อภาษาอังกฤษว่า "Nimetazepam" ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ทำให้หลับ เป็นยาต้องห้าม ไม่มีในบัญชียาของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงไม่มีการผลิตในไทย ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ คาดว่ามาจากทางฝั่งยุโรป

เตือนเป็นยาเสพติดอันตราย ฤทธิ์รุนแรงอาจถึงตาย

พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ย้ำเตือน ยาทั้ง 2 ชนิดเป็นยาเสพติดอันตราย วัยรุ่นหรือบุคคลทั่วไปไม่ควรทดลองเสพ อาจมีการออกฤทธิ์รุนแรง ขึ้นประสาทหลอน หรือเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เตรียมส่งไปกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบแบบละเอียดอีกครั้ง และขยายผลจับกุมขบวนการกลุ่มผู้ค้าผู้เสพต่อไป

 ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :hilight.kapook ,ข่าวช่องวัน