05 มีนาคม 2565

ทนายษิทรา ให้ข้อมูล ตร. ชี้ทำเพื่อแตงโม - ฝากถึงคุณแม่... ขอให้เฮง ๆ ปัง ๆ

    ทนายษิทรา เข้าให้ข้อมูลตำรวจ ชี้ ทำเพื่อแตงโม เผย ปอ-โรเบิร์ต รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเจอคดี ไม่มีการพูดคุยขอให้เป็นทนาย พร้อมฝากถึงแม่แตงโมว่า "ขอให้เฮง ๆ ปัง ๆ"


จากกรณีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา ที่ตกเรือสปีดโบ๊ทเสียชีวิต ซึง่ตามรายงานข่าวในตอนแรกมีการระบุถึงชื่อทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ที่มีการอ้างว่ากลุ่มคนบนเรือแตงโม ไปได้หาทนายษิทราเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ทางทนายษิทรา ไม่รับ


ล่าสุด (4 มีนาคม 2565) ทนายตั้ม ได้โพสต์ภาพผ่าน เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เป็นภาพที่เจ้าตัวยืนอยู่ที่ท่าเรือพิบูลสงคราม ซึ่งบริเวณนั้นมีคนนำดอกไม้มาไว้อาลัยให้กับนักแสดงสาวแตงโม นิดา โดยทนายตั้ม ได้ระบุข้อความว่า  

 

"ผมพูดมาตลอดว่าที่ผมออกมาช่วยเพื่อแตงโมคนเดียวเท่านั้น !! ฉะนั้นพวกเราช่วยกันต่อ คิดว่าเห็นแก่แตงโมกันนะครับ #อย่าสิ้นหวัง"


ต่อมา สำนักข่าวไทย รายงานว่า ทนายตั้ม ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ระบุว่า ไฮโซปอ และโรเบิร์ต ได้เข้ามาปรึกษาตนที่ร้านอาหารหลังวันเกิดเหตุ ส่วนกระจิก ตามมาทีหลัง ได้เจอกันไม่น่า ซึ่งไฮโซปอ และโรเบิร์ต รู้อยู่แล้วว่าต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และผู้อยู่ในเหตุการณ์มีทนายความส่วนตัวอยู่แล้ว


นายตั้ม เผยอีกว่า แซน คือกุญแจสำคัญของคดีนี้ ซึ่งเป็นคนที่บอกว่าแตงโม เดินมาฉี่ที่ท้ายเรือ สำหรับประเด็นการเจอเส้นผมที่ใบพัดเรือนั้น ยังไม่มีใครยืนยันข้อเท็จจริงในส่วนนี้ได้


ทนายตั้ม ยอมรับว่าตนเองเป็นพยานเต็มตัว ตนได้รับการประสานมา 2 เรื่อง คือวันที่พบไฮโซปอ และโรเบิร์ต กับเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 ตนได้แจ้งเบาะแสสำคัญ จึงต้องการให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต้องการให้ตำรวจทดลองเกี่ยวกับใบพัด และหางเสือเรือในน้ำเพื่อดูรอยตัด เช่น ใช้เนื้อหมู หรือซิลิโคนทดสอบ เพราะคดีอาชญากรรมหลายคดีมีการทดลองเช่นนี้หมด และคาดว่าจะเป็นจุดสำคัญที่ตำรวจควรให้ความสำคัญ


ทั้งนี้ การที่ตำรวจย้ายเรือไปเก็บรักษาเพื่อป้องกันการยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานนั้นเป็นเรื่องดี เพราะเรือเป็นหลักฐานสำคัญในคดี แต่ยืนยันว่าเมื่อวานตนแค่ดูเรือ และรู้ว่าคือวัตถุพยาน ไม่มีการสัมผัส ไม่ได้ขึ้นเรือ



สำหรับประเด็นที่พบไฮโซปอ และโรเบิร์ต มีเพื่อนตนที่รู้จัก 2 คนนี้ติดต่อมาเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 นั้น มีเวลาคุยกันไม่เกิน 15 นาที ส่วนใหญ่เล่าเหตุการณ์และปรึกษาเพื่อเตรียมตัวเท่านั้น เนื่องจากทั้งคู่รู้จักว่าตนเป็นทนายที่มีความสามารถทางคดีเท่านั้น ตนไม่ได้รู้จักทั้งคู่มาก่อน


โดยทั้งคู่เล่าเหตุการณ์ช่วงที่เกิดเหตุเหมือนที่สื่อทราบ ตนไม่ขอลงรายละเอียด แต่ต้องการรู้ว่าใครถูกดำเนินคดีบ้าง ตนจึงแนะนำว่าถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นว่าคนขับเรือเป็นเจ้าของ และอีกคนเป็นคนขับเรือด้วย ทั้งคู่ก็ถูกดำเนินคดี ระหว่างคุยทั้งคู่มีสีหน้ากังวลกันมาก เพราะรู้ว่าต้องถูกดำเนินคดี และไม่มีการพูดว่าจะเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง รวมถึงไม่มีการปรึกษาแนวทางหลุดพ้นคดี รวมถึงทั้งคู่บอกว่าพยายามหาแตงโมแล้ว และกังวลว่าแตงโมจะเสียชีวิต มีการตั้งความหวังว่าจะมีใครช่วยไว้ได้ไหม


ทนายตั้ม เล่าต่อว่า ช่วงที่ได้คุยกับ ไฮโซปอ และโรเบิร์ต นั้นตนได้เจอกับกระติก และโบ สุรัตนาวี ที่ลานจอดระเพียง 30 วินาที ซึ่งกระติกเดินเข้ามาทักและถามว่าหนูต้องทำยังไง ตนก็แนะนำให้ไปโรงพักเท่านั้น และก็แยกย้ายกัน มาทราบภายหลังว่ามีจ๊อบรออยู่ที่รถอีกคน ตนเองยืนยันตั้งแต่ต้นว่า การพูดคุยไม่มีการขอให้เป็นทนายความ


ส่วนประเด็นที่สังคมสงสัยว่า โรเบิร์ตมี 2 คน ตนยืนยัน โรเบิร์ตที่ตนเห็นเป็นคนเดียวกัน ใส่เสื้อยืด ร่างท้วม แต่ผมไม่ได้ใส่แว็กและจำไม่ได้ว่าหน้าผากเถิกหรือไม่


ส่วนกรณี โบ TK เข้าให้การตำรวจเมื่อวานนี้ (3 มีนาคม 2565) ซึ่งเป็นให้การไม่เหมือนที่กระติกเล่าให้ฟัง แม้ไม่ใช่ ประจักษ์พยานโดยตรง แต่โบเป็นพยานแวดล้อม ก็น่าเชื่อถือ และข้อมมูลที่โบเล่าเป็นความจริง ทั้งการให้สัมภาษณ์ ดังนั้นหากพิสูจน์ว่าพยานทั้ง 5 คน ให้การไม่เป็นความจริง อาจโดนข้อหาให้การการเท็จ แต่ต้องดูวาระสำคัญก่อนด้วย เพราะพยานกับผู้ต้องหาต่างกัน เช่น ผู้ต้องหาจะให้การยังไงก็ได้ แต่พยาน หากให้การเกินข้อเท็จจริงก็โดนข้อหาได้


สำหรับประเด็นที่คุณแม่ของแตงโม ออกโหนกระแสนั้น ตนค่อยข้างตกใจ เพราะตนมีลูก ยืนยันว่าถ้าเป็นลูกตนคงประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งก็ขอให้แม่น้องเฮง ๆ ปัง ๆ


"ขอให้เฮง ๆ ปัง ๆ แล้วก็มีความสุขมาก ๆ"


แม่แตงโม ประเมินค่าลูกเป็นเงิน 30 ล้านบาท นั้น ขึ้นอยู่กับฝ่ายนั้นว่าจะจ่ายไหม ถ้าตกลงกันได้ก็จบ แต่หากผู้ต้องหามองว่ามองว่าแม่เพิ่งมาดูแล แตงโม ได้ไม่นาน จำนวนเงินอาจจะไม่ถึง หากได้เงินสินไหมจำนวนนี้ ยอมรับว่าเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ แต่คดีนี้มีผู้เสียหาย 2 คน คือแม่กับพี่ชาย หากพี่ชายไม่ยอม คัดค้านก็ต้องต่อสู้กัน แต่คดีก็ยังเบา เป็นเหตุบรรเทาโทษ ผู้ต้องหาจ่ายเงิน รับสารภาพแล้ว น้ำหนักโทษจะเบาลง เช่น รอลงอาญา


ทนายตั้ม ยืนยันว่าคดีนี้ไม่สามารถยอมความได้แน่นอน เพราะเป็นคดีอาญาแผ่นดิน ส่วนตัวมีความรู้เหมือนทุกคน และอธิบายไม่ถูกและอย่าไปเห็นแก่ใคร ให้เห็นแก่ แตงโม ว่าจะต้องได้รับความยุติธรรมความความจริงต้องปรากฏ ให้ช่วยแตงโม และตนก็เชื่อว่าหากความจริงปรากฏน้องคงสบายใจหมดห่วง


ดังนั้นขึ้นอยู่กับตำรวจว่าจะคิดทำอย่างไร และจะสนใจในประเด็นที่ตนบอกไหม หรือหากไม่สนใจ สรุปตามสำนวนในตอนนี้ก็ได้เพราะมีคนสารภาพแล้ว แต่ถ้าสื่อตามข่าว สังคมตาม เชื่อว่าจะเป็นแรงกดดันให้ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา ส่วนเงินประกันอุบัติเหตุที่แตงโมมอบให้ลูกของกระติกนั้น เป็นความประสงค์ของแตงโม ยืนยันว่าแม่ไม่มีสิทธิ์ เนื่องจากการเอาเงินผู้เยาว์ต้องขอคำสั่งศาล แม้แม่จะร้องขอศาล ศาลก็ไม่ให้แน่นอน เพราะไม่ใช่ประโยชน์ของผู้เยาว์ แต่ทุกอย่างสามารถเจรจากันได้ แต่หากจะเปลี่ยนแปลงต้องเป็นคุณแตงโมเท่านั้น


"วันนี้มาในฐานะพยานนะครับ แล้วผมต้องขออนุญาตใครไหมเนี่ย ต้องขออนุญาตุณแม่ไหม

ขออนุญาตคุณแม่นะครับ ขอเสือกเรื่องนี้หน่อย ขอเป็นพยานหน่อยนะครับ"




ขอบคุณข้อมูลอละภาพประกอบจาก : สำนักข่าวไทย, รายการโหนกระแส,ไทยพีบีเอส ,เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สถานะยืนยันตัวตน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขึ้นข้อความแบบไหน ได้สิทธิชัวร์

      ตรวจสอบสถานะ ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านเว็บไซต์ด้วยตนเอง หากได้รับข้อความแบบไหนถึงจะรูผลว่าผ่านและรอรับเงินเข้าบัตรประจำตัวป...