13 มกราคม 2564

สุดอันตราย ! เผยผลตรวจ เคนมผง ผสมยาเสพติดทีเดียว 3 ชนิด เสพครั้งเดียวอาจตาย


   แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เผยผลตรวจสารประกอบใน ยาเคนมผง พบสารเสพติดรุนแรง 3 ชนิด ทั้ง เคตามีน-เฮโรอีน-ยาอี เสริมฤทธิ์รุนแรงเสพแล้วอาจถึงตาย คาดมาจาก 2 แหล่งผลิต ส่วนผสมต่างกัน


วันที่ 12 มกราคม 2564 พล.ต.ต. ธนิต จิรนันท์ธวัช นายแพทย์ (สบ 6) ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มงานพยาธิวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยผลการตรวจพิสูจน์ของกลางที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุท้องที่ สน.วัดพระยาไกร ว่า มีของกลางที่ถูกส่งมาตรวจพิสูจน์ 2 ชิ้น จาก 2 แหล่งผลิต โดยแบบแรกพบสารเสพติด 2 ตัว คือ เคตามีน และไดอะซีแพม เป็นกลุ่มยานอนหลับ ส่วนแบบที่ 2 พบสาร 3 ชนิด คือ เคตามีน เฮโรอีน และยาอี ทั้งนี้ กรณีสูตรไม่ตายตัว อยู่ที่ผู้ผลิตจะนำส่วนผสมมารวมกันอย่างไรบ้าง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพตามต้องการ 


แต่ทั้ง 2 ตัวอย่างไม่พบส่วนผสมของไอซ์และนมผงตามชื่อยาที่เรียกกัน เชื่อว่าแหล่งที่มาของสารมาจากคนละแหล่ง ซึ่งตัวสารที่ความรุนแรงมากที่สุดคือเฮโรอีน หากได้รับเกินขนาดจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ รองลงมาเป็นเคตามีน รบกวนการทำงานของหัวใจได้ ส่วนยานอนหลับจะมีฤทธิ์เบากว่า ยกเว้นได้รับปริมาณมาก ๆ ก็ทำให้เสียชีวิตได้



พล.ต.ต. ธนิต กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุที่ เคนมผง ทำให้เกิดอันตรายรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต เนื่องจากมีการใช้ยารวมกัน ทำให้เกิดพิษสะสมเพิ่มเติม ส่งเสริมความแรงของพิษต่อร่างกายและต่ออวัยวะอย่างรุนแรงและเฉียบพลันมากขึ้น บางครั้งเป็นการกดผลข้างเคียงของยาตัวอื่น ทำให้เวลาเสพเข้าไปไม่รู้สึกถึงผลข้างเคียง ทำให้มีความเสี่ยงได้รับยาที่สูงเกินขนาดจนกระทั่งถึงแก่ชีวิต


สำหรับการเสพเคตามีน มีฤทธิ์กดประสาท ลดการเจ็บปวด ทำให้รับรู้แสง สี เสียง ผิดปกติ ทำให้เคลิบเคลิ้ม มีผลต่อความดันโลหิตสูง ลดอัตราการหายใจ มีอาการฝัน แต่เมื่อเสพในปริมาณมากทำให้เสียชีวิต และหากมีส่วนผสมของยาอี ที่มีฤทธิ์ต่อระบบหัวใจ ก็จะทวีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนยานอนหลับ เชื่อว่าผู้เสพนำมาผสมขึ้นเนื่องจากผู้เสพมีภาวะดื้อยา จึงนำยานอนหลับซึ่งหาได้ง่ายมาผสมเพื่อให้เกิดตัวยาใหม่



ซึ่งการผสมตัวยาหลายชนิดเข้าไปนั้นจะเป็นการกดผลข้างเคียงของยาชนิดอื่น ทำให้ผู้เสพไม่รับรู้ถึงผลข้างเคียง และเสพเพิ่มขึ้นจนถึงขีดอันตราย ทั้งนี้ มีการตรวจพบสูตรยาในลักษณะนี้มานานแล้ว โดยมีการผสมมากสุด 3 ชนิด ซึ่งในเมืองนอกนิยมเสพยาลักษณะนี้ แต่การเสียชีวิตหมู่ 6 ศพ ถือว่าพบครั้งแรกที่เสียชีวิตพร้อมกันขณะนี้


พล.ต.ต. ธนิต ยังกล่าวอีกว่า ล่าสุดขณะนี้ สน.วัดพรยาไกร ได้ส่งผู้เสียชีวิตรายที่ 7 จากการเสพยาเคนมผงให้สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พิสูจน์ชันสูตร คาดว่าจะทราบผลเร็ว ๆ นี้ จึงฝากเตือนประชาชนว่ายาเคนมผงไม่ใช่สารเสพติดธรรมดา แต่เป็นสารเสพติดรุนแรงหลายชนิดรวมกัน ทำให้มีอันตรายร้ายแรงและอาจทำให้เสียชีวิตได้



 ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :hilight.kapook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สถานะยืนยันตัวตน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขึ้นข้อความแบบไหน ได้สิทธิชัวร์

      ตรวจสอบสถานะ ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านเว็บไซต์ด้วยตนเอง หากได้รับข้อความแบบไหนถึงจะรูผลว่าผ่านและรอรับเงินเข้าบัตรประจำตัวป...