แพทย์แจงผลชันสูตร น้องชมพู่ ไร้ร่องรอยถูกทำร้าย อาจหลงป่าจนหิวตาย ทั้งสองฝั่งเชื่อเด็กขึ้นเขาไม่ได้ ลุงพล คาใจ เสื้อน้องหายไปไหน
จากกรณีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ มีการเผยว่า ที่ร่างมีลักษณะเป็นรู ความลึกประมาณ 5 เซนติเมตร แต่ไม่เหมือนกับร่องรอยถูกทำร้าย และยังไม่ชัดเจนว่าน้องตายจากสาเหตุอะไร ขณะที่สังคมยังจับตาความคืบหน้าในคดีที่เกิดขึ้นนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 11 กรกฎาคม 2563 รายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นพ.ศักดิ์สิทธิ์ บุญลักษณ์ หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี แพทย์ผู้ผ่าชันสูตรศพน้องชมพู่คนแรก เปิดเผยผลชันสูตรศพอย่างละเอียด จากการชันสูตรเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ยืนยันว่าสมองและปอดไม่พบความผิดปกติที่เกิดจากการทำร้ายร่างกาย มีเพียงการเน่า กะโหลกศีรษะไม่พบการแตกร้าว คอไม่หัก ไม่มีรอยฟกช้ำ กระเพาะอาหารไม่มีอาหารหลงเหลืออยู่ มีเพียงของเหลว 10 มิลลิลิตร อวัยวะเพศไม่พบร่องรอยที่เกิดจากการถูกล่วงละเมิด มีความเป็นไปได้กรณีเด็กพลัดหลงป่าจนขาดอาหาร ขาดน้ำจนเสียชีวิต
นางสาวิตรี แม่ของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า จากที่ร่างของน้องมีรูลึกประมาณ 5 เซนติเมตร ตนมองว่าไม่น่าใช่การกดทับของศพ เพราะน้องหนักแค่ 9.5 กิโลกรัม ส่วนประเด็นที่ในกระเพาะไม่มีอาหาร เพราะในวันที่น้องหายไป (11 พฤษภาคม) น้องได้กินอาหารมื้อสุดท้ายช่วงเวลา 07.00 น. โดยกินไข่เจียวเปล่าเพียงเล็กน้อย และน้ำส้มนิดหน่อย ก่อนหายตัวไป แต่ตนเองก็ยังไม่เชื่อว่าเด็กจะเดินขึ้นเขาไปเองได้
สำหรับคลิปของลุงพลที่ร้องไห้ในวันที่เจอศพ และพูดว่าน้องชมพู่อดอาหารตายนั้น ตนไม่อยากเสนอความคิดเห็น แต่ให้คนที่ดูข่าวเป็นผู้แสดงความคิดเห็นเองดีกว่า ส่วนที่ลุงพลพูดถึงผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนติดยา ตนก็ไม่รู้ว่าหมายถึงใคร และตนไม่เคยพูดเรื่องนี้กับลุงพลมาก่อน แต่ตนจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะไม่อยากแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับลุงพล
ด้าน นายไชย์พล หรือ ลุงพล ลุงน้องชมพู่ บอกว่า เท่าที่ส่องไฟดูในวันที่พบศพ เห็นบริเวณหน้าแข้งชมพู่มีร่อยฟกช้ำเยอะ ที่ปลายเท้ามีรอยฟกช้ำเลือด หลังแขนมีรอยคล้ายหนังกำพร้าหลุด ผิวคล้ำ ๆ โดยจากระยะทางแล้วเชื่อว่าน้องไม่ได้เดินไปตายเอง ถึงแม้ตัวเองเป็นผู้ต้องสงสัย ตนเองก็ไม่ได้อยากให้ปิดคดี เพราะตนก็หาเสื้อหาหลักฐานมาตลอด ก็ได้แต่เฝ้าหวัง อีกอย่างหากชมพู่ไปตายเองอยากรู้ว่า เสื้อน้องไปอยู่ไหน
นางสมพร ป้าน้องชมพู่ บอกว่า ตนเองคิดว่าหลานไม่น่าเดินไปตายเองได้ หากเป็นเช่นนั้นก็มีข้อสงสัยอีกว่า ทำไมเด็กต้องถอดเสื้อ โดยจากที่ทราบพบว่า กางเกงอยู่ซ้ายสุด รองเท้าตามมา และเจอศพ ซึ่งปกติแล้วคนเราจะถอดรองเท้าก่อนกางเกง จึงต้องมีคำตอบกับเรื่องนี้ด้วยหากจะบอกว่าเด็กตายเอง ยืนยันไม่ต้องการให้คดีเงียบ เพราะครอบครัวเจอกระแสเข้ามาเยอะ อยากให้มีการหาคนร้ายให้ได้ถึงแม้สามีจะเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ก็ต้องการให้หาความจริง เพราะมั่นใจว่าสามีตนเองไม่ผิด
ทั้งนี้กรณีที่ ลุงพล เคยให้สัมภาณ์ว่าสาเหตุที่หลานเสียชีวิต อาจเพราะหมดอาหารให้กินแล้ว ได้มีการย้อนคำสัมภาษณ์แม่น้องชมพู่ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหลังพบศพน้อง ทางแม่ ก็รับว่า น้องน่าจะหิว และขาดอาหาร ถือเป็นการพูดในทำนองที่ตรงกัน
ขณะที่ นายเจริญ เพื่อนของ นายอนามัย พ่อน้องชมพู่ เผยสาเหตุที่ ลุงพล เป็นผู้แบกเป้ไปตามหาน้องชมพู่ก่อนจะเจอศพ โดยวันดังกล่าวจะมีการขึ้นเขาไปตามหาน้อง นายอนามัย ตั้งใจนำกระเป๋ามาฝากที่ตนให้ขึ้นเขาไปตามหาน้อง เผื่อจะได้เอาขนม นม ให้น้องชมพู่กิน แต่พ่อน้องชมพู่ไปเจอกับลุงพลก่อน ซึ่งลุงพลอาสาจะขึ้นเขาไปตามหาให้ พ่อน้องจึงมอบกระเป๋าให้กับลุงพล ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่ากระเป๋าใบดังกล่าวมีการเตรียมมาตั้งแต่ตอนไหน แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าลุงพลเกี่ยวข้อง และนายอนามัย ก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง เพราะที่ผ่านมาไม่เคยตีลูกเลย
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : hilight.kapook,ทุบโต๊ะข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น